เขตการค้าเสรีนครเซี่ยงไฮ้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเมืองฮ่องกง

29 Jul 2013

ฮ่องกงจะยังคงเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการเงิน เหนือเซี่ยงไฮ้และกว่าอีกหลายเมือง

นับตั้งแต่ที่นาย Chen Liangyu อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้ ถูกปลดและตัดสินลงโทษจากกรณีฉ้อราษฎร์บังหลวงในปี 2549 ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลาง และรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ดำเนินไปในทางที่ไม่ค่อยดีนัก หลายๆ คนจึงคิดว่า นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามให้เป็น “ปารีสของตะวันออก” อาจจะถูกเมินจากรัฐบาลกลาง และถึงแม้ว่าเซี่ยงไฮ้จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo ในปี 2553 แต่ทว่าโอกาสนั้นก็สั้นเกินไปที่จะผลักดันนครเซี่ยงไฮ้ให้กลับมาอยู่ในสปอตไลท์ของผู้นำจีน

จนกระทั่งต้นเดือนมีนาคมของปีนี้ นาย Li Keqiang นายกรัฐมนตรีจีน ได้เดินทางไปเยี่ยมชมเขตผู่ตงใหม่ และบริเวณเขตการค้าและท่าเรือที่สำคัญของเซี่ยงไฮ้ การเยือนเซี่ยงไฮ้ของนายกรัฐมนตรีจีนครั้งนี้นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของนครเซี่ยงไฮ้ เพราะเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2556 นาย Li Keqiang ได้ประกาศให้นครเซี่ยงไฮ้เป็นเขตทดลองการค้าเสรีแห่งแรกของจีน โดยมีพื้นที่ครอบคลุมเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนบริเวณท่าเรือไว่เกาเฉียว ท่าเรือน้ำลึกหยางซาน และท่าอากาศยานผู่ตง โดยมุ่งเป้าให้เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางในการยกระดับและปฏิรูปเศรษฐกิจจีน ดึงดูดนักลงทุนและเงินทุนจากทั่วโลกด้วยมาตรการพิเศษทางภาษี รวมทั้งขยายตลาดการค้าเสรีระหว่างประเทศ ปฏิรูปและเปิดเสรีทางการเงิน โดยหวังใช้เงินทุนจากต่างประเทศเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้คงระดับการเติบโตที่ราวร้อยละ 7.5 เพื่อพัฒนาเซี่ยงไฮ้ให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก ทัดเทียมกับนิวยอร์กและลอนดอนภายในปี 2563 ซึ่งหากการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ประสบผลสำเร็จ นครเซี่ยงไฮ้จะถูกนำไปเป็นต้นแบบในการจัดตั้งเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษในเมืองอื่นๆ

การจัดตั้งเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้นำมาซึ่งความหวั่นไหวในฮ่องกงในประเด็นเรื่องการแข่งขันเพื่อเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกของจีน อย่างไรก็ตาม นางสาว Anita Fung Yuen-mei ผู้บริหารสูงสุดของธนาคาร Hong Kong Shanghai Banking Corporation (HSBC) สาขาเมืองฮ่องกง ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้จะไม่ทำให้ความสำคัญของฮ่องกงลดลงเพราะตลาดจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ความร่วมมือระหว่างฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมของการพัฒนาประเทศจีน นอกจากนี้ นางสาว Anita ยังแสดงความสนใจที่จะจัดตั้งสาขาธนาคาร HSBC ในเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้อีกด้วย

นักวิเคราะห์จำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นว่า เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้อาจส่งผลกระทบต่อฮ่องกงในอนาคตก็เป็นได้ เนื่องจากปัจจุบันฮ่องกงเป็นเมืองท่าปลอดภาษีที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางการทำธุรกรรมระหว่างประเทศด้วยเงินหยวน ดังนั้น หากเซี่ยงไฮ้มีนโยบายภาษีที่น่าสนใจกว่า ฮ่องกงก็อาจจะได้รับผลกระทบได้ อย่างไรก็ตาม รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัย ประจำคณะสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง เห็นว่า ปัจจัยที่แตกต่างระหว่างฮ่องกงกับเซี่ยงไฮ้คือ ฮ่องกงได้รับการบริหารด้วยหลักนิติรัฐฯ ทั้งระบบ ดังนั้น จึงยังอาจเร็วเกินไปที่จะตัดสินได้ว่า เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้จะประสบความสำเร็จหรือไม่

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะสามารถรักษาสถานะความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงได้

บีไอซีเห็นว่า เซี่ยงไฮ้จะยังต้องใช้เวลาอีกมากในการพัฒนาระบบการจัดการทางเศรษฐกิจและการเงิน เพื่อที่จะก้าวมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจและการเงินของจีนในระดับโลก แต่ด้วยระบบการบริหารจัดการทางเศรษฐกิจและการเงินของฮ่องกงที่ได้วางรากฐานมาเป็นอย่างดีและมีความเป็นสากล ฮ่องกงจึงยังจะคงความเป็นเมืองแถวหน้าในด้านการเงินของภูมิภาคและระดับโลก แต่ในยะยาว รัฐบาลฮ่องกงก็จะต้องปรับตัว เพื่อต่อสู้กับการแข่งขันที่จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หากฮ่องกงหยุดอยู่นิ่งก็อาจจะสูญเสียความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจให้กับเขตการค้าเสรีใหม่เช่นนครเซี่ยงไฮ้ก็เป็นได้ นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้มิได้เป็นเมืองแห่งเดียวที่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเขตการค้าเสรี แต่ยังมีเมืองอื่นๆ ซึ่งได้ยื่นแผนพัฒนาในลักษณะดังกล่าวต่อสภาแห่งชาติจีน และมีอีกหลายเมืองที่ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาทิ เซินเจิ้น และเทียนจิน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ฮ่องกงจะต้องหาจุดยืนที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งให้กับตัวเอง เนื่องจากไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าฮ่องกงจะยังคงสถานะความเป็นศูนย์กลางทางการเงินเช่นนี้ไปได้อีกนานเพียงใด

เขตการค้าเสรี

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน