มณฑลยูนนานเตรียมเข้าสู่ยุค AI และ 5G
24 May 2019เมื่อวันที่ 19-21 เมษายน 2562 มณฑลยูนนานได้จัดงาน International Artificial Intelligence and Smart Life Application Expo (AIAE) เป็นครั้งแรกโดยมีสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมณฑลยูนนาน สมาพันธ์อินเทอร์เน็ตมณฑลยูนนาน หอการค้ายูนนาน และสมาคมสมาร์ทซิตี้มณฑลยูนนานร่วมกันจัดงานบนพื้นที่ 13,000 ตารางเมตร รวม 85 คูหา โดยเน้นการจัดแสดงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 5G, Cloud Computing, Big Data และ Internet of Things (IoTs)
จุดเด่นของงานคือ การมีบริษัทจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Huawei, Tencent, Baidu, Alibaba, iFlytek, UBTECH, DJI Technology, China Telecom เข้าร่วมงาน โดย Huawei, Baidu และ Alibaba จัดแสดงศักยภาพด้าน Cloud Computing, Big Data และเทคโนโลยีระบบจดจำใบหน้า เพื่อนำเสนอโซลูชั่นสำหรับสนับสนุนองค์กร 4.0 ในส่วนของ Tencent ได้นำเสนอแอปพลิเคชัน “Travel in Yunnan” (游云南) ซึ่งเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลมณฑลยูนนาน เพื่อให้บริการด้านการท่องเที่ยวของมณฑลยูนนานอย่างครอบคลุม ทั้งข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร การใช้ชีวิต แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิง ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดการใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวแล้วกว่า 1.5 ล้านคน ขณะเดียวกัน Tencent ยังนำเสนอโรงแรมอัจฉริยะ (Smart Hotel) ซึ่งมีระบบอำนวยความสะดวก เช่น การเปิด-ปิดไฟ ผ้าม่าน ประตู และทีวี ด้วยระบบรีโมทอัจฉริยะและการสั่งการด้วยเสียง ซึ่งขณะนี้ผู้พัฒนาอยู่ระหว่างการเจรจากับโรงแรมแห่งหนึ่งในนครคุนหมิงเพื่อทดลองการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลงานด้านหุ่นยนต์และโดรนหลากหลายชนิดจาก UBTECH Robotics บริษัทจีนที่ออกแบบและพัฒนาระบบหุ่นยนต์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งเคยได้รับรางวัล “องค์กรนวัตกรรมยอดเยี่ยม 50 อันดับแรกของจีน” ในการประชุมสุดยอดนวัตกรรม Forbes China 2018 และบริษัท DJI ผู้ผลิตและจำหน่ายโดรนยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ราวร้อยละ 70 ในตลาดโดรนของโลก
การจัดงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า มณฑลยูนนานกำลังให้ความสำคัญกับการยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิมด้วยการผนวกเอานวัตกรรมและเทคโนโลยี AI มาสร้างมูลค่าเพิ่มและความสามารถด้านการแข่งขัน หลังจากที่รัฐบาลยูนนานได้ประกาศเดินหน้ามุ่งเน้นการพัฒนา “เศรษฐกิจดิจิทัล” เมื่อต้นปี 2562 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานและการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อให้จีนกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ภายในปี 2573 และยังเป็นการดึงดูดให้บริษัทที่มีชื่อเสียงด้าน AI เข้ามาลงทุนในมณฑลยูนนานมากยิ่งขึ้น
ในยุคของการเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารที่มีความรวดเร็ว หลายพื้นที่ของมณฑลยูนนานได้สร้างสถานีทดสอบเทคโนโลยี 5G ในเชิงพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กิจกรรมทางเศรษฐกิจดิจิทัล และจนถึงเดือน มี.ค. 2562 บริษัทรายใหญ่ด้านโทรคมนาคมอย่าง China Mobile, China Unicom และ China Telecom ได้สร้างสถานีทดสอบ 5G ในหลายเมืองของมณฑลยูนนานรวมกว่า 33 แห่ง เช่น คุนหมิง ลี่เจียง ต้าหลี่ เหวินซาน เป่าซาน และฉู่สง โดยมีเป้าหมายว่า ภายในปี 2563 จะเปิดให้บริการ 5G ในเชิงพาณิชย์ให้คลอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะส่งเสริมการพัฒนา Internet of Thing, Cloud Computing, Big Data และ AI ให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างสมาร์ทซิตี้ให้กับมณฑลยูนนาน
ก่อนหน้านี้ มณฑลยูนนานได้เตรียมความพร้อมการเข้าสู่ AI ยุคใหม่ของจีน ด้วยการสร้างนิคมอุตสาหกรรมด้าน Cloud Computing, Big Data และ AI เพื่อผลักดันเทคโนโลยีดังกล่าวให้แทรกซึมเข้าไปยังทุกภาคอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น นิคมอุตสาหกรรม AI ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ณ อาคารสำนักงานตึก 18 ของศูนย์ธุรกิจเต๋อรุ่น ในเขตอู่หัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้น “AI Plus” หรือการบ่มเพาะธุรกิจให้ใช้ประโยชน์จาก AI หรือการผสมผสานความเป็นอัจฉริยะเข้าไปในกิจกรรมของธุรกิจ รวมถึง Kunming Cheng Gong Information Industrial Park ซึ่งได้รับอนุมัติจากรัฐบาลมณฑลยูนนานให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเมื่อปี 2558 ตั้งอยู่ในเขตเฉิงก้ง นครคุนหมิง มีข้อได้เปรียบคือเป็นแหล่งรวมบุคลากรที่มีความสามารถ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงมากมายนับสิบแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยยูนนาน มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนครคุนหมิง โดยมีอาจารย์และนักศึกษาราว 200,000 คน ปัจจุบัน มีบริษัทที่มีชื่อเสียงเข้าไปดำเนินงานแล้วมากมาย เช่น บริษัท UBTECH สร้างนิคมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ บริษัท ruisitekeji สร้างนิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะและ Internet of Things และบริษัท Unigroup สร้างนิคมอุตสาหกรรมการผลิตชิพและวงจรรวม รวมถึงบริษัทชั้นนำอย่าง Huawei และ Inspur
นอกจากนี้ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปมณฑลยูนนานได้กำหนด “แผนพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่มณฑลยูนนาน” ขึ้น โดยมีเป้าหมาย 3 ระยะ คือ
1) ภายในปี 2563 อุตสาหกรรม AI ที่สำคัญของมณฑลยูนนานจะมีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านหยวน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจะมีมูลค่าเกินกว่า 10,000 ล้านหยวน โดยจะดึงดูดบริษัทชั้นนำด้าน AI เข้ามาลงทุนในมณฑลยูนนานกว่า 10 บริษัท และจะผลักดันให้มีบริษัท AI ที่มีมูลค่าการผลิตมากกว่าร้อยล้านหยวนเกินกว่า 5 บริษัท
2) ภายในปี 2568 อุตสาหกรรม AI ที่สำคัญของมณฑลยูนนานจะมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านหยวน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจะมีมูลค่าเกินกว่า 60,000 ล้านหยวน
3) ภายในปี 2573 AI จะกลายเป็นการพัฒนาที่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของมณฑลยูนนาน โดยมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านหยวน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจะมีมูลค่าเกินกว่า 150,000 ล้านหยวน
ภายใต้แผนฯ ดังกล่าว รัฐบาลจะมุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI การบ่มเพาะธุรกิจให้ผนวกใช้นวัตกรรม AI การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานความเป็นอัจฉริยะ การส่งเสริมนวัตกรรม AI รูปแบบใหม่ และการยกระดับความสามารถทางเทคโนโลยี AI ในมณฑลยูนนาน เพื่อให้มณฑลยูนนานกลายเป็นแหล่งนวัตกรรมที่มีความหลากหลาย แหล่งรวบรวมบุคลากรด้าน AI ที่มากความสามารถ และแหล่งรวมตัวของอุตสาหกรรม AI ที่สำคัญของประเทศ
ปัจจุบัน มณฑลยูนนานอยู่ระหว่างการผลักดันอุตสาหกรรม AI ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายแห่งชาติของจีนที่มีการประยุกต์ใช้ AI ให้เข้ากับหลายสาขา เช่น การท่องเที่ยว การป้องกันประเทศ การศึกษา สุขอนามัย คมนาคม อุตสาหกรรม การเกษตร และพลังงาน แต่ยังประสบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขาดบริษัทชั้นนำท้องถิ่นและบุคลากรระดับสูงด้าน AI รวมถึงความสามารถด้านนวัตกรรมยังไม่เพียงพอ จึงต้องดึงดูดบริษัทใหญ่ระดับประเทศ เช่น Baidu, Alibaba, Tencent และ Huawei เข้ามาสนับสนุน เพื่อให้อุตสาหกรรม AI ของยูนนานมีศักยภาพเพิ่มขึ้นและเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
***************************************
แหล่งข้อมูล
- จากการติดตามกงสุลฝ่ายเศรษฐกิจเข้าร่วมงาน International Artificial Intelligence and Smart Life Application Expo (AIAE) เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2562
- http://yn.xinhuanet.com/newscenter/2018-11/27/c_137634155.htm
- http://www.kmwh.gov.cn/c/2018-02-02/2320897.shtml
- http://yndaily.yunnan.cn/html/2019-03/07/content_htm?div=-1
- http://news.yninfo.com/tu/201904/t20190422_html